Fic Lastchance [โคโรเนโร่ x รัล มิลจิ] ตอนจบ
3 posters
หน้า 1 จาก 1
Fic Lastchance [โคโรเนโร่ x รัล มิลจิ] ตอนจบ
ถึงบอกว่านี่เป็นบ้านของเธอแต่เธอก็ไม่เคยอยู่ที่นี่มาก่อน เมื่อคืนกว่าจะหลับก็ปาเข้าไปเกือบตีหนึ่งแล้ว รอยคล้ำที่ขอบตาดูราวกับน้องหมีแพนด้าเรียกเสียงหัวเราะจากเจ้าโคโรเนโร่ได้ดีเลยทีเดียว หมอนั้นเห็นหน้าเธอแล้วมันตลกนักรึไงฮะ!
“ หุบปากไปเลย ” น้ำเสียงไม่พอใจของเธอทำให้หมอนั้นต้องกลั้นหัวเราะ แต่หันมายิ้มแทน =*=
“ เร็วๆหน่อยเดี๋ยวก็สายหรอก ” หมอนั้นบ่นก่อนจะเดินออกจากบ้านไปทำให้เธอต้องรีบคว้ารองเท้ามาใส่แล้ววิ่งตามออกไป
ระหว่างการเดินไปโรงเรียนเธอเริ่มรู้สึกจะเข้าใจแล้วว่าทำไมร่างนี้ของเธอถึงได้เกลียดเจ้าหมอนี่เข้าไส้ ร่างของชายหนุ่มผมทองในชุดนักเรียนเดินโปรยรอยยิ้มไปทั่ว ทำเอาสาวเล็กสาวใหญ่โดยเฉพาะเด็กนักเรียนโรงเรียนเดียวกันแทบจะเดินตามกันมาเป็นขบวนแล้ว เธอมองภาพนี้แล้วทำท่าคลื่นไส้ ไอ้พ่อคนเสน่ห์แรงเอ๋ย! คิดว่าตัวเองหล่อตายล่ะ แต่เอ๊ะ…ถ้าหมอนี้มีสาวเยอะขนาดนี้แล้วโอกาสของเธอล่ะ ความคิดนี้เล่นเอาเจ้าตัวคิดหนัก แถมเรายังเป็นศัตรูคู่แค้นกันอีก งานเข้าแล้วไงยัยรัล มัลจิ! พอดีคิดเพลินไปหน่อยทำให้เธอไม่ได้ดูทางชนกับอะไรบางอย่างเข้าให้
“ โอ๊ย! ” เสียงหวีดร้องของเธอ ร่างบางเสถลาไปด้านหลังแต่แล้วร่างของใครบางคนก็คว้าเธอไว้ในอ้อมแขน
“ เป็นอะไรรึเปล่า ” เสียงของหมอนั้นดังอยู่ข้างหูเธอทันทีที่หันหน้าไปก็สบตากับหมอนั้นพอดีหัวใจเจ้ากรรมก็เต้นรัว นัยน์ตาสีฟ้าที่ฉายแววเป็นห่วงฉายชัดนั้น เธอได้ยินเสียงกรี๊ดสนั่นจากรอบๆแต่สายตาเธอจับจ้องแต่เพียงเขาคนเดียวเท่านั้นจนไม่สนใจสิ่งรอบข้าง ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะเพิ่งรู้ว่าทำอะไรอยู่ อ้อมแขนอันอบอุ่นกลับผละออกในทันทีทำเอาร่างเธอลงไปกองอยู่กับพื้น พร้อมร่างสูงที่เดินจากไปอย่างไม่เลียวแล
“ แกแสบนักนะเจ้าโคโรเนโร่ ” เสียงเธอนั่งกัดฟันพูดอย่างเจ็บใจตอนนี้เธอมานั่งอยู่ในห้องเรียนเรียบร้อยแล้วแต่กว่าจะเดินฝ่าเสียงหัวเราะมาได้นี่สิ เจ้าบ้านั้นดันทิ้งเธอไว้ตรงนั้น ทิ้งเธอไว้กับเหล่าสาวๆสาวกหมอนั้นที่หัวเราะกันหน้าดำหน้าแดงเล่นเอาเธอขายหน้าซะจนตอนนี้ไม่มี ‘หน้า’ จะไปพบใครที่ไหนแล้ว หาปี๊บมาคลุมหัวดีมั้ยเนี้ย ?
“ รัลจัง ” เสียงเบี้ยงกี้เพื่อนสนิทเดินเข้าห้องมากอดคอฉัน พอเจอหน้าฉันก็ระบายความอัดอั้นตันใจออกไปทั้งหมด
“ มา! เรามาว่างแผนแกล้งหมอนั้นคืนกัน ”
แผนที่ดูดีแต่มันจะได้ผลจริงรึเปล่านะ วันนี้การเรียนไม่ค่อยเข้าหัวเธอเท่าไรก็เพราะที่จริงเธอเรียนจบไปนานแล้วนี่น่ามันกลับมาเรียนอีกรอบก็เหมือนฟังเทปซ้ำอีกครั้งแต่เป็นอีกคนบรรยายเท่านั้นเอง ในหัวเธอตอนนี้กำลังเรียบเรียงแผนการทุกอย่างให้เข้าที่เริ่มจาก...ห้องหมอนั้น หึหึ
หลังเลิกเรียนเธอก็รีบวิ่งกลับบ้านซึ่งตอนนี้เธอจำได้แล้ว ร่างบางเดินตรงไปที่ห้องเจ้าหมอนั้น มือบางควักอุปกรณ์ต่างๆมาเตรียมไว้จัดการหลังจากที่จัดแจงทุกอย่างสำเร็จก็กลบเกลื่อนร่องรอยทุกอย่างภายในห้องให้เข้าสู่ปกติ ใบหน้าหวานแย้มรอยยิ้มรอคอยอย่างเดียวตอนนี้...เมื่อหมอนั้นกลับมา
ทันทีที่เปิดประตูก็พบแต่ความเงียบสนิทภายในบ้านมีแต่ความมืดมิดร่างสูงคิด...สงสัยยัยรัล มัลจิยังไม่กลับมา ความรู้สึกเป็นห่วงเริ่มแล่นเข้ามาภายในใจ ก่อนที่จะโดนเจ้าตัวสลัดทิ้งยัยบ้านั้นไม่เป็นไรหรอก อึดถึกจะตายชัก ขนาดโดนชนก็ยัง...
ภาพเหตุการณ์ตอนนั้นยังอยู่ในหัวของเขาทันทีที่ร่างบางของหญิงสาวโดนรถ ภาพที่ร่างของเธอค่อยๆร่วงลงพื้นถนน ตอนนั้นเขาไปซื้อของแล้วกลับทางนั้นพอดีเห็นรัลวิ่งผลักเด็กออกไปแล้วตัวเธอเองก็โดนรถชนแทนตอนนั้นเขาแทบบ้าทิ้งของทุกอย่างวิ่งไปตรงนั้น ยังดีที่รถที่ชนหยุดทันก่อนที่จะทับร่างของรัล ตอนนั้นเขาหัวใจแทบหยุดเต้นตะโกนให้คนรอบๆช่วยทั้งน้ำตาให้โทรแจ้งรถพยาบาล ตัวเองเรียกชื่อยัยนั้นไม่หยุด
หรือเขาควรจะโทรไปดี เจ้าตัวกำเอาโทรศัพท์ขึ้นมามองแล้วก็ยัดกลับเข้ากระเป๋ากางเกง มันไม่กล้านิหว่า ร่างสูงเดินขึ้นบันไดไปด้านบนตรงไปยังห้องตัวเองทันทีที่ชายหนุ่มเดินเข้าไปในห้อง ร่างบางที่ซ่อนตัวหลบอยู่ห้องข้างๆก็รีบเปิดประตูออกมาแล้วตรงไปเปิดประตูห้องหมอนั้น
“ โอ๊ย ! ๓฿+๑๓฿๔฿ ” เสียงดังโวยวายจากในห้องทำให้เธอขำจนแทบจะลงไปกลิ้ง ด้วยเสียงอัน(ไม่)ดังของสาวเจ้าทำให้ชายหนุ่มภายในห้องเดือดทันที ประตูที่ถูกเปิดออกจากด้านในทันให้เธอโกยอ่าวไปในทันทีแต่มีมือหนาราวกับคีมเหล็กนั้นจับเธอเอาไว้ก่อนจะกระชากจับเธอไปล็อคคอ
“ ปล่อยนะ ” เธอร้องเสียงดังแต่หมอนั้นไม่ปล่อยจับเธอพาดบ่าก่อนจะโยนลงบนเตียงเขา
[ติดเรทดีมั้ยเนี้ย ! 55+]
ยิ่งบนเตียงที่มีชุดชั้นในผู้หญิงอยู่ทำให้เธอขำไม่หยุด แถมมองขึ้นไปยังมีอีกเพียบซึ่งเธอไปซื้อเชือกมาขึงไว้เหนือเตียงเลยทีเดียว แผนนี้ของเบียงกี้ได้ผลดีจริงๆสิ55+ แถมเมื่อเธอมองไปที่หมอนั้นแล้วยิ่งฮาใหญ่ชายหนุ่มเรือนผมทองทำท่าทางอ้าปากค้างบนหัวมีบราผู้หญิงติดผมอยู่ แถมสภาพที่หมอนั้นเปียกมะลอกมะแลกด้วยแล้วสุดยอดเข้าไปใหญ่ นี้เป็นความเลวร้ายที่ไม่จบสิ้นนายยังเจอไม่ครบทุกอย่างเลยนะโคโรเนโร่ถ้านายยังไม่เลิกทำให้ฉันโกรธ55+
“ เธอ!!!... ” หมอนั้นเรียกเธออย่างโกรธจัดนิ้วที่ชี้ยังสั่นระริกเลย ท่าทางอันตรายของหมอนั้นทำให้เธอพยายามกั้นเสียงหัวเราะอย่างเต็มที่ หมอนั้นหันไปดึงบราออกจากหัวพลางมองไปยังส่วนต่างๆของห้องที่ดูเละเทะ เธอพยายามตีหน้าใสซื่อบริสุทธิ์
“ แสบนักนะ ” หมอนั้นจะโจนเข้ามาจับเธอล็อคคอเธออีกครั้งแล้วจี้ลงเอว
“ ป...ปล่อย 55+ ” เสียงหวานขอร้องสลับกับเสียงหัวเราะ เธอพยายามดิ้นให้หลุดแต่ดูเหมือนเจ้าหมอนี้จะแค้นมากไม่ยอมปล่อยเธอเลยกว่าเราจะฟัด(สู้)กันจนเธอก็ลงไปนอนแผ่อยู่บนเตียงแล้ว หมอนั้นล้มลงของๆเธอด้วยท่าทางเหนื่อยไม่ต่างกัน
“ ยัยบ้าเอ๋ย ” หมอนั้นผลักหัวเธออย่างหมั่นไส
“ โอ๊ย! ” ผลักมาได้หัวคนนะเฟ้ย ไม่ใช่หัวผักกาด เธอหันไปมองหน้าหมอนั้นอย่างโกรธๆแต่เมื่อหันไปก็พบว่าหมอนั้นกำลังมองเธออยู่เหมือนกัน ความเงียบเข้าปกคลุมห้องอีกครั้ง ก่อนที่ใบหน้าของคนตรงหน้าจะเลื่อนเข้ามาใกล้เธอมากกว่าเดิม
“ รัล... ” เสียงเรียกอย่างแผ่วเบา ใบหน้าที่เขยิบเข้ามาใกล้ทำให้ฉันหัวใจเต้นรัวอย่างน่าประหลาด
“ ...น่าแปลกที่เราทะเลาะกันทุกวันแต่ฉันกลับ.... ” เสียงทุ้มหยุดไปกลางคันทำให้ฉันที่ฟังอยู่ทวนคำสุดท้ายขึ้นเหมือนโดนสะกดจิต
“ กลับ... ” ฉันทวนคำนั้นด้วยความรู้สึกเหมือนใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว มองใบหน้าของหมอนั้นที่เลื่อนเข้ามาใกล้นัยน์ตาสีฟ้าสวยปิดลงอย่างช้าๆก่อนจะประกบริมฝีปากหนาลงบนริมฝีปากหวานฉ่ำของเธอ เธอเบิกตากว้างอย่างตกใจทันทีที่โดนจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัว มือบางผลักไหล่ของคนต้องหน้าแต่แล้วก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับจุมพิตอันหอมหวานนั้น ทันทีที่หมอนั้นผละออกมาเธอก็รีบสูดอากาศหายใจให้เต็มปอด
“ ...จูบแรกสินะ ” หมอนั้นกระซิบที่หูเธอเบาๆด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ ทำให้เธอที่เขินจนบอกไม่ถูกผลักร่างตรงหน้าออกโดยแรงแต่เจ้าตัวกลับคว้าเธอเข้าไปกอดซะอย่างงั้น เธอเพิ่งเห็นอะไรบางอย่างเมื่อตะกี้ หมอนั้นคร่อมเธออยู่ด้านบนตั้งแต่เมื่อไร >///< !!!
ด้วยความเขินสุดขีดทำให้เธอยันหมอนั้นออกไปส่วนตัวเองก็รีบเผ่นแน่บออกจากห้องไปอย่างรวดเร็วทิ้งไว้แต่ผู้กระทำ(จูบ)ที่กลายเป็นผู้ถูกกระทำ(โดนถีบ)นั่งคิดบัญชียัยตัวแสบอยู่ภายในห้องคนเดียว
“ =///= ” ให้ตายสินี่ฉัน....
“ ....ยัยรัลของเราคิดอะไรอยู่เนี้ย ” ยัยเบียงกี้ทำหน้าเจ้าเล่ห์มองเธอที่นั่งหน้าแดงอยู่ในห้องทำให้เธอแก้เขินฟาดยัยนี้ไปหลายที่เหมือนกัน
“ เจ็บนะ ตีมาได้มือหนักชิบ.. ” ยัยเบียงกี้เป่ามือตัวเองทำท่าทางเจ็บนัก เธอทำท่าไม่ใสใจมองข้ามท่าทางสำออยของเพื่อนสาวออกไป
“ ไม่ได้คิดอะไรนะ ” เสียงตอบอ๋อมแอ๋มทำให้นัยน์ตาของเพื่อนสาวเปล่งประกายระยับมองใบหน้าเธอเหมือนรู้อะไรบางอย่าง เบียงกี้ยื่นหน้ามาใกล้กับเธอพลางพูดเบาๆ
“ อย่าบอกเชียวนะว่า เมื่อวานที่ฉันบอกเธอไปทำให้หมอนั้นโมโหจนรวบหัวรวบหางเธอไปแล้ว ” สิ้นคำพูดของเพื่อนสนิทมือบางของเธอก็ตบเข้าที่หัวเพื่อนรักอย่างแม่นยำพร้อมตะโกนด่าก้อง
“ ยัยบ้า !!! มันไม่ถึงขนาดนั้นหรอกมันก็แค่.... ” เธอพูดไม่ออกแล้วอ่ะ =///=
“ แค่...แค่อะไรอ่า ” ใบหน้านั้นทำให้เธอต้องหลบตา
“ หรือว่า....จะเป็น ” เมื่อมองใบหน้าเจ้าเล่ห์ไม่น่าไว้ใจเมื่อกี้ทำให้เธอชักใจไม่ดี ก่อนที่เบียงกี้จะพูดขึ้นมาลอยๆแต่กลับถูกเผงตรงใจเธอ
“ จูบ ”
“ อ้าก!!! อยากจะบ้าตายนี่ฉันเป็นอะไรเนี้ย ” เสียงตะโกนก้องของเธอ หลังจากที่ขึ้นมาบนดาดฟ้าแล้วตะโกนสิ่งที่อึดอัดภายในใจระบายอารมณ์ต่างๆออกมาจนหมด แม้แต่ตอนนี้เธอเองก็ยังบอกอารมณ์ตัวเองไม่ถูกเหมือนกันมันทั้งเขินทั้งอายทั้ง...โอ๊ย! ไม่รู้แล้ว
“ ใครมาเอะอะโวยวายแถวนี้ ” เสียงเย็นชาแบบนี้นี่มัน เธอหันหลังกลับไปมองใบหน้าอันหล่อเหลาของกรรมการนักเรียน...ฮิบาริ เคียวยะ ให้ตายสิไม่น่ามาเจอหมอนี่ตอนนี้เลย!!! ร่างบางเผลอถอยห่างจากหมอนั้นออกมาสองสามก้าวแต่แล้วก็มีร่างของชายหนุ่มอีกคนที่โผล่ออกมาจากด้านหลังจับไหล่ของฮิบาริไว้
“ ใจเย็นน่านั้นผู้หญิงนะ เดี๋ยวฉันจัดการเอง ” เสียงทุ้มพูด ฮิบาริสะบัดมือที่จับไหล่ก่อนจะเดินลงจากดาดฟ้าไปด้วยท่าทางไม่พอใจ ให้ตายสิวันนี้ฉันหนีเสือปะจระเข้ชัดๆเลยเธอคิดในใจ ขณะที่เธอทำท่าจะเดินหนีหมอนั้นก็คว้าแขนของเธอเอาไว้
“ รัลมาคุยกันก่อนสิ ” เสียงของเจ้าโคโรเนโร่ทำให้เธอรู้สึกว่าใบหน้าร้อนวูบวาบยังไงก็ไม่รู้
“ .....มีอะไร ” คำพูดที่สั้นๆง่ายๆแต่ทำไมเธอถึงได้คิดนานจังกว่าจะพูดออกมาได้
“ เรื่องเมื่อคืน...... ” หมอนั้นพูดแล้วจู่ๆก็เงียบไปทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจ ทำไมหรือว่านายจะบอกว่าไม่ตั้งใจ เธอสลัดแขนออกแต่หมอนั้นจับเธอเอาไว้ซะแน่นจนสลัดไม่หลุด
“ ฟังก่อนสิ ”
“ ไม่....ปล่อยนะ ” เธอพยายามสลัดให้หลุดทั้งเอามือแงะก็ไม่ยอมปล่อยแล้วอยู่ๆหมอนั้นก็คว้าเธอเข้าไปกอดไว้จากทางด้านหลังแล้วพูดเบาๆที่ข้างหูเธอว่า
“ จะบอกว่าเรื่องเมื่อคืนนี้ฉันตั้งใจ ” >///< นี่เมื่อกี้เธอคิดแทบจะเรียกได้ว่าตรงข้ามกับคำพูดนี้โดยสิ้นเชิงเลย อยู่ๆโคโรเนโร่จับเธอหมุนมาเผชิญหน้า สองมือของร่างสูงจับใบหน้าเธอมาจ้องหน้าเขา
“ น่าแปลกจริงๆ ทั้งๆที่เราทะเลาะกันทุกวันแต่ทำไมฉันกลับคิดถึงแต่หน้าเธอ ” คำพูดที่ไม่คิดว่าจะหลุดออกจากปากของหมอนั้นทำให้เธอรู้สึกเหมือนตัวเองจะเริ่มเมาแดด ทำไมแข้งขามันถึงได้รู้สึกหมดเรี่ยวแรงเช่นนี้
“ นาย... ” เธอพูดอะไรไม่ออก นี่ฉัน...บอกไปสิความรู้สึกที่ฉันมีต่อเขาไปสิ อยากจะทำมันให้ซ้ำรอยเดิมหรือไงยัยรัล มัลจิ ความคิดนี้เป็นแรงกระตุ้นผลักดันให้เธอพูดออก
“ ฉันรักนายโคโรเนโร่ ” ทันทีที่พูดจบร่างบางก็คว้าคอของคนตรงหน้ามาจูบในทันที ในที่สุดเธอก็ได้พูดในสิ่งที่เธอไม่กล้าทำมาโดยตลอด ฉันจะไม่ยอมเสียนายไปอีกแล้ว...โคโรเนโร่ ทันทีที่ริมฝีปากของทั้งคู่ผละออกจากกันหมอนั้นก็กอดเธอ
“ ฉันก็รักเธอ ” รอยยิ้มกว้างอย่างห้ามไม่อยู่ฉายขึ้นบนใบหน้าของเธอ ความรู้สึกของความรักมันคงเป็นแบบนี้ที่เอง เธอเกยคางบนไหล่ของหมอนั้นพลางหลับตาพริ้มรับความสุขและความอบอุ่นจากสองแขนของอ้อมกอดนี้
.............ขอบคุณที่ให้โอกาสฉันครั้ง
.........................ขอบคุณมากๆค่ะ
........................................ขอบคุณ
[แถมท้ายให้อีกนิด!!!]
“ 55+ นา..นายหน้าแดง ” เธอมองหน้าของหมอนั้นที่แดงเถือกอย่างเห็นได้ชัดภายหลังจากที่ผละออกมาจากอ้อมกอดของกันและกัน
“ หุบปากไปเลยนะยัยบ้า ” หมอนั้นพูดด้วยท่าทีที่อายจัด มองดูเธอที่ขำจนจะลงไปกลิ้งก่อนที่มุมปากจะแสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย
“ จะว่าไปฉันควรลงโทษเธอซะหน่อยที่ดันพูดตัดหน้าบอกรักฉันก่อนดีมั้ยเนี้ย ” คำพูดและท่าทางไม่น่าไว้ใจของหมอนั้นทำให้เธอหยุดขำโดยอัตโนมัติ นัยน์ตาสีน้ำตาลหันไปมองด้วยท่าทางระมัดระวังทันทีที่ร่างสูงของหมอนั้นวิ่งเข้ามาเธอ เธอก็วิ่งโกยอ้าวออกไปอย่างรวดเร็ว
“ แน่จริงนายก็จับฉันให้ทันสิ ”
“ หนอย ! ”
“ จับไม่ได้อ่ะดิ 55+ ”
“ คอยดู....ถ้าฉันจับเธอได้รับรองไม่จบแค่จูบเดียวแน่ๆ ”
“ นะ...นาย…. >////< ”
..................................[End]............................................
“ หุบปากไปเลย ” น้ำเสียงไม่พอใจของเธอทำให้หมอนั้นต้องกลั้นหัวเราะ แต่หันมายิ้มแทน =*=
“ เร็วๆหน่อยเดี๋ยวก็สายหรอก ” หมอนั้นบ่นก่อนจะเดินออกจากบ้านไปทำให้เธอต้องรีบคว้ารองเท้ามาใส่แล้ววิ่งตามออกไป
ระหว่างการเดินไปโรงเรียนเธอเริ่มรู้สึกจะเข้าใจแล้วว่าทำไมร่างนี้ของเธอถึงได้เกลียดเจ้าหมอนี่เข้าไส้ ร่างของชายหนุ่มผมทองในชุดนักเรียนเดินโปรยรอยยิ้มไปทั่ว ทำเอาสาวเล็กสาวใหญ่โดยเฉพาะเด็กนักเรียนโรงเรียนเดียวกันแทบจะเดินตามกันมาเป็นขบวนแล้ว เธอมองภาพนี้แล้วทำท่าคลื่นไส้ ไอ้พ่อคนเสน่ห์แรงเอ๋ย! คิดว่าตัวเองหล่อตายล่ะ แต่เอ๊ะ…ถ้าหมอนี้มีสาวเยอะขนาดนี้แล้วโอกาสของเธอล่ะ ความคิดนี้เล่นเอาเจ้าตัวคิดหนัก แถมเรายังเป็นศัตรูคู่แค้นกันอีก งานเข้าแล้วไงยัยรัล มัลจิ! พอดีคิดเพลินไปหน่อยทำให้เธอไม่ได้ดูทางชนกับอะไรบางอย่างเข้าให้
“ โอ๊ย! ” เสียงหวีดร้องของเธอ ร่างบางเสถลาไปด้านหลังแต่แล้วร่างของใครบางคนก็คว้าเธอไว้ในอ้อมแขน
“ เป็นอะไรรึเปล่า ” เสียงของหมอนั้นดังอยู่ข้างหูเธอทันทีที่หันหน้าไปก็สบตากับหมอนั้นพอดีหัวใจเจ้ากรรมก็เต้นรัว นัยน์ตาสีฟ้าที่ฉายแววเป็นห่วงฉายชัดนั้น เธอได้ยินเสียงกรี๊ดสนั่นจากรอบๆแต่สายตาเธอจับจ้องแต่เพียงเขาคนเดียวเท่านั้นจนไม่สนใจสิ่งรอบข้าง ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะเพิ่งรู้ว่าทำอะไรอยู่ อ้อมแขนอันอบอุ่นกลับผละออกในทันทีทำเอาร่างเธอลงไปกองอยู่กับพื้น พร้อมร่างสูงที่เดินจากไปอย่างไม่เลียวแล
“ แกแสบนักนะเจ้าโคโรเนโร่ ” เสียงเธอนั่งกัดฟันพูดอย่างเจ็บใจตอนนี้เธอมานั่งอยู่ในห้องเรียนเรียบร้อยแล้วแต่กว่าจะเดินฝ่าเสียงหัวเราะมาได้นี่สิ เจ้าบ้านั้นดันทิ้งเธอไว้ตรงนั้น ทิ้งเธอไว้กับเหล่าสาวๆสาวกหมอนั้นที่หัวเราะกันหน้าดำหน้าแดงเล่นเอาเธอขายหน้าซะจนตอนนี้ไม่มี ‘หน้า’ จะไปพบใครที่ไหนแล้ว หาปี๊บมาคลุมหัวดีมั้ยเนี้ย ?
“ รัลจัง ” เสียงเบี้ยงกี้เพื่อนสนิทเดินเข้าห้องมากอดคอฉัน พอเจอหน้าฉันก็ระบายความอัดอั้นตันใจออกไปทั้งหมด
“ มา! เรามาว่างแผนแกล้งหมอนั้นคืนกัน ”
แผนที่ดูดีแต่มันจะได้ผลจริงรึเปล่านะ วันนี้การเรียนไม่ค่อยเข้าหัวเธอเท่าไรก็เพราะที่จริงเธอเรียนจบไปนานแล้วนี่น่ามันกลับมาเรียนอีกรอบก็เหมือนฟังเทปซ้ำอีกครั้งแต่เป็นอีกคนบรรยายเท่านั้นเอง ในหัวเธอตอนนี้กำลังเรียบเรียงแผนการทุกอย่างให้เข้าที่เริ่มจาก...ห้องหมอนั้น หึหึ
หลังเลิกเรียนเธอก็รีบวิ่งกลับบ้านซึ่งตอนนี้เธอจำได้แล้ว ร่างบางเดินตรงไปที่ห้องเจ้าหมอนั้น มือบางควักอุปกรณ์ต่างๆมาเตรียมไว้จัดการหลังจากที่จัดแจงทุกอย่างสำเร็จก็กลบเกลื่อนร่องรอยทุกอย่างภายในห้องให้เข้าสู่ปกติ ใบหน้าหวานแย้มรอยยิ้มรอคอยอย่างเดียวตอนนี้...เมื่อหมอนั้นกลับมา
ทันทีที่เปิดประตูก็พบแต่ความเงียบสนิทภายในบ้านมีแต่ความมืดมิดร่างสูงคิด...สงสัยยัยรัล มัลจิยังไม่กลับมา ความรู้สึกเป็นห่วงเริ่มแล่นเข้ามาภายในใจ ก่อนที่จะโดนเจ้าตัวสลัดทิ้งยัยบ้านั้นไม่เป็นไรหรอก อึดถึกจะตายชัก ขนาดโดนชนก็ยัง...
ภาพเหตุการณ์ตอนนั้นยังอยู่ในหัวของเขาทันทีที่ร่างบางของหญิงสาวโดนรถ ภาพที่ร่างของเธอค่อยๆร่วงลงพื้นถนน ตอนนั้นเขาไปซื้อของแล้วกลับทางนั้นพอดีเห็นรัลวิ่งผลักเด็กออกไปแล้วตัวเธอเองก็โดนรถชนแทนตอนนั้นเขาแทบบ้าทิ้งของทุกอย่างวิ่งไปตรงนั้น ยังดีที่รถที่ชนหยุดทันก่อนที่จะทับร่างของรัล ตอนนั้นเขาหัวใจแทบหยุดเต้นตะโกนให้คนรอบๆช่วยทั้งน้ำตาให้โทรแจ้งรถพยาบาล ตัวเองเรียกชื่อยัยนั้นไม่หยุด
หรือเขาควรจะโทรไปดี เจ้าตัวกำเอาโทรศัพท์ขึ้นมามองแล้วก็ยัดกลับเข้ากระเป๋ากางเกง มันไม่กล้านิหว่า ร่างสูงเดินขึ้นบันไดไปด้านบนตรงไปยังห้องตัวเองทันทีที่ชายหนุ่มเดินเข้าไปในห้อง ร่างบางที่ซ่อนตัวหลบอยู่ห้องข้างๆก็รีบเปิดประตูออกมาแล้วตรงไปเปิดประตูห้องหมอนั้น
“ โอ๊ย ! ๓฿+๑๓฿๔฿ ” เสียงดังโวยวายจากในห้องทำให้เธอขำจนแทบจะลงไปกลิ้ง ด้วยเสียงอัน(ไม่)ดังของสาวเจ้าทำให้ชายหนุ่มภายในห้องเดือดทันที ประตูที่ถูกเปิดออกจากด้านในทันให้เธอโกยอ่าวไปในทันทีแต่มีมือหนาราวกับคีมเหล็กนั้นจับเธอเอาไว้ก่อนจะกระชากจับเธอไปล็อคคอ
“ ปล่อยนะ ” เธอร้องเสียงดังแต่หมอนั้นไม่ปล่อยจับเธอพาดบ่าก่อนจะโยนลงบนเตียงเขา
[ติดเรทดีมั้ยเนี้ย ! 55+]
ยิ่งบนเตียงที่มีชุดชั้นในผู้หญิงอยู่ทำให้เธอขำไม่หยุด แถมมองขึ้นไปยังมีอีกเพียบซึ่งเธอไปซื้อเชือกมาขึงไว้เหนือเตียงเลยทีเดียว แผนนี้ของเบียงกี้ได้ผลดีจริงๆสิ55+ แถมเมื่อเธอมองไปที่หมอนั้นแล้วยิ่งฮาใหญ่ชายหนุ่มเรือนผมทองทำท่าทางอ้าปากค้างบนหัวมีบราผู้หญิงติดผมอยู่ แถมสภาพที่หมอนั้นเปียกมะลอกมะแลกด้วยแล้วสุดยอดเข้าไปใหญ่ นี้เป็นความเลวร้ายที่ไม่จบสิ้นนายยังเจอไม่ครบทุกอย่างเลยนะโคโรเนโร่ถ้านายยังไม่เลิกทำให้ฉันโกรธ55+
“ เธอ!!!... ” หมอนั้นเรียกเธออย่างโกรธจัดนิ้วที่ชี้ยังสั่นระริกเลย ท่าทางอันตรายของหมอนั้นทำให้เธอพยายามกั้นเสียงหัวเราะอย่างเต็มที่ หมอนั้นหันไปดึงบราออกจากหัวพลางมองไปยังส่วนต่างๆของห้องที่ดูเละเทะ เธอพยายามตีหน้าใสซื่อบริสุทธิ์
“ แสบนักนะ ” หมอนั้นจะโจนเข้ามาจับเธอล็อคคอเธออีกครั้งแล้วจี้ลงเอว
“ ป...ปล่อย 55+ ” เสียงหวานขอร้องสลับกับเสียงหัวเราะ เธอพยายามดิ้นให้หลุดแต่ดูเหมือนเจ้าหมอนี้จะแค้นมากไม่ยอมปล่อยเธอเลยกว่าเราจะฟัด(สู้)กันจนเธอก็ลงไปนอนแผ่อยู่บนเตียงแล้ว หมอนั้นล้มลงของๆเธอด้วยท่าทางเหนื่อยไม่ต่างกัน
“ ยัยบ้าเอ๋ย ” หมอนั้นผลักหัวเธออย่างหมั่นไส
“ โอ๊ย! ” ผลักมาได้หัวคนนะเฟ้ย ไม่ใช่หัวผักกาด เธอหันไปมองหน้าหมอนั้นอย่างโกรธๆแต่เมื่อหันไปก็พบว่าหมอนั้นกำลังมองเธออยู่เหมือนกัน ความเงียบเข้าปกคลุมห้องอีกครั้ง ก่อนที่ใบหน้าของคนตรงหน้าจะเลื่อนเข้ามาใกล้เธอมากกว่าเดิม
“ รัล... ” เสียงเรียกอย่างแผ่วเบา ใบหน้าที่เขยิบเข้ามาใกล้ทำให้ฉันหัวใจเต้นรัวอย่างน่าประหลาด
“ ...น่าแปลกที่เราทะเลาะกันทุกวันแต่ฉันกลับ.... ” เสียงทุ้มหยุดไปกลางคันทำให้ฉันที่ฟังอยู่ทวนคำสุดท้ายขึ้นเหมือนโดนสะกดจิต
“ กลับ... ” ฉันทวนคำนั้นด้วยความรู้สึกเหมือนใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว มองใบหน้าของหมอนั้นที่เลื่อนเข้ามาใกล้นัยน์ตาสีฟ้าสวยปิดลงอย่างช้าๆก่อนจะประกบริมฝีปากหนาลงบนริมฝีปากหวานฉ่ำของเธอ เธอเบิกตากว้างอย่างตกใจทันทีที่โดนจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัว มือบางผลักไหล่ของคนต้องหน้าแต่แล้วก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับจุมพิตอันหอมหวานนั้น ทันทีที่หมอนั้นผละออกมาเธอก็รีบสูดอากาศหายใจให้เต็มปอด
“ ...จูบแรกสินะ ” หมอนั้นกระซิบที่หูเธอเบาๆด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ ทำให้เธอที่เขินจนบอกไม่ถูกผลักร่างตรงหน้าออกโดยแรงแต่เจ้าตัวกลับคว้าเธอเข้าไปกอดซะอย่างงั้น เธอเพิ่งเห็นอะไรบางอย่างเมื่อตะกี้ หมอนั้นคร่อมเธออยู่ด้านบนตั้งแต่เมื่อไร >///< !!!
ด้วยความเขินสุดขีดทำให้เธอยันหมอนั้นออกไปส่วนตัวเองก็รีบเผ่นแน่บออกจากห้องไปอย่างรวดเร็วทิ้งไว้แต่ผู้กระทำ(จูบ)ที่กลายเป็นผู้ถูกกระทำ(โดนถีบ)นั่งคิดบัญชียัยตัวแสบอยู่ภายในห้องคนเดียว
“ =///= ” ให้ตายสินี่ฉัน....
“ ....ยัยรัลของเราคิดอะไรอยู่เนี้ย ” ยัยเบียงกี้ทำหน้าเจ้าเล่ห์มองเธอที่นั่งหน้าแดงอยู่ในห้องทำให้เธอแก้เขินฟาดยัยนี้ไปหลายที่เหมือนกัน
“ เจ็บนะ ตีมาได้มือหนักชิบ.. ” ยัยเบียงกี้เป่ามือตัวเองทำท่าทางเจ็บนัก เธอทำท่าไม่ใสใจมองข้ามท่าทางสำออยของเพื่อนสาวออกไป
“ ไม่ได้คิดอะไรนะ ” เสียงตอบอ๋อมแอ๋มทำให้นัยน์ตาของเพื่อนสาวเปล่งประกายระยับมองใบหน้าเธอเหมือนรู้อะไรบางอย่าง เบียงกี้ยื่นหน้ามาใกล้กับเธอพลางพูดเบาๆ
“ อย่าบอกเชียวนะว่า เมื่อวานที่ฉันบอกเธอไปทำให้หมอนั้นโมโหจนรวบหัวรวบหางเธอไปแล้ว ” สิ้นคำพูดของเพื่อนสนิทมือบางของเธอก็ตบเข้าที่หัวเพื่อนรักอย่างแม่นยำพร้อมตะโกนด่าก้อง
“ ยัยบ้า !!! มันไม่ถึงขนาดนั้นหรอกมันก็แค่.... ” เธอพูดไม่ออกแล้วอ่ะ =///=
“ แค่...แค่อะไรอ่า ” ใบหน้านั้นทำให้เธอต้องหลบตา
“ หรือว่า....จะเป็น ” เมื่อมองใบหน้าเจ้าเล่ห์ไม่น่าไว้ใจเมื่อกี้ทำให้เธอชักใจไม่ดี ก่อนที่เบียงกี้จะพูดขึ้นมาลอยๆแต่กลับถูกเผงตรงใจเธอ
“ จูบ ”
“ อ้าก!!! อยากจะบ้าตายนี่ฉันเป็นอะไรเนี้ย ” เสียงตะโกนก้องของเธอ หลังจากที่ขึ้นมาบนดาดฟ้าแล้วตะโกนสิ่งที่อึดอัดภายในใจระบายอารมณ์ต่างๆออกมาจนหมด แม้แต่ตอนนี้เธอเองก็ยังบอกอารมณ์ตัวเองไม่ถูกเหมือนกันมันทั้งเขินทั้งอายทั้ง...โอ๊ย! ไม่รู้แล้ว
“ ใครมาเอะอะโวยวายแถวนี้ ” เสียงเย็นชาแบบนี้นี่มัน เธอหันหลังกลับไปมองใบหน้าอันหล่อเหลาของกรรมการนักเรียน...ฮิบาริ เคียวยะ ให้ตายสิไม่น่ามาเจอหมอนี่ตอนนี้เลย!!! ร่างบางเผลอถอยห่างจากหมอนั้นออกมาสองสามก้าวแต่แล้วก็มีร่างของชายหนุ่มอีกคนที่โผล่ออกมาจากด้านหลังจับไหล่ของฮิบาริไว้
“ ใจเย็นน่านั้นผู้หญิงนะ เดี๋ยวฉันจัดการเอง ” เสียงทุ้มพูด ฮิบาริสะบัดมือที่จับไหล่ก่อนจะเดินลงจากดาดฟ้าไปด้วยท่าทางไม่พอใจ ให้ตายสิวันนี้ฉันหนีเสือปะจระเข้ชัดๆเลยเธอคิดในใจ ขณะที่เธอทำท่าจะเดินหนีหมอนั้นก็คว้าแขนของเธอเอาไว้
“ รัลมาคุยกันก่อนสิ ” เสียงของเจ้าโคโรเนโร่ทำให้เธอรู้สึกว่าใบหน้าร้อนวูบวาบยังไงก็ไม่รู้
“ .....มีอะไร ” คำพูดที่สั้นๆง่ายๆแต่ทำไมเธอถึงได้คิดนานจังกว่าจะพูดออกมาได้
“ เรื่องเมื่อคืน...... ” หมอนั้นพูดแล้วจู่ๆก็เงียบไปทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจ ทำไมหรือว่านายจะบอกว่าไม่ตั้งใจ เธอสลัดแขนออกแต่หมอนั้นจับเธอเอาไว้ซะแน่นจนสลัดไม่หลุด
“ ฟังก่อนสิ ”
“ ไม่....ปล่อยนะ ” เธอพยายามสลัดให้หลุดทั้งเอามือแงะก็ไม่ยอมปล่อยแล้วอยู่ๆหมอนั้นก็คว้าเธอเข้าไปกอดไว้จากทางด้านหลังแล้วพูดเบาๆที่ข้างหูเธอว่า
“ จะบอกว่าเรื่องเมื่อคืนนี้ฉันตั้งใจ ” >///< นี่เมื่อกี้เธอคิดแทบจะเรียกได้ว่าตรงข้ามกับคำพูดนี้โดยสิ้นเชิงเลย อยู่ๆโคโรเนโร่จับเธอหมุนมาเผชิญหน้า สองมือของร่างสูงจับใบหน้าเธอมาจ้องหน้าเขา
“ น่าแปลกจริงๆ ทั้งๆที่เราทะเลาะกันทุกวันแต่ทำไมฉันกลับคิดถึงแต่หน้าเธอ ” คำพูดที่ไม่คิดว่าจะหลุดออกจากปากของหมอนั้นทำให้เธอรู้สึกเหมือนตัวเองจะเริ่มเมาแดด ทำไมแข้งขามันถึงได้รู้สึกหมดเรี่ยวแรงเช่นนี้
“ นาย... ” เธอพูดอะไรไม่ออก นี่ฉัน...บอกไปสิความรู้สึกที่ฉันมีต่อเขาไปสิ อยากจะทำมันให้ซ้ำรอยเดิมหรือไงยัยรัล มัลจิ ความคิดนี้เป็นแรงกระตุ้นผลักดันให้เธอพูดออก
“ ฉันรักนายโคโรเนโร่ ” ทันทีที่พูดจบร่างบางก็คว้าคอของคนตรงหน้ามาจูบในทันที ในที่สุดเธอก็ได้พูดในสิ่งที่เธอไม่กล้าทำมาโดยตลอด ฉันจะไม่ยอมเสียนายไปอีกแล้ว...โคโรเนโร่ ทันทีที่ริมฝีปากของทั้งคู่ผละออกจากกันหมอนั้นก็กอดเธอ
“ ฉันก็รักเธอ ” รอยยิ้มกว้างอย่างห้ามไม่อยู่ฉายขึ้นบนใบหน้าของเธอ ความรู้สึกของความรักมันคงเป็นแบบนี้ที่เอง เธอเกยคางบนไหล่ของหมอนั้นพลางหลับตาพริ้มรับความสุขและความอบอุ่นจากสองแขนของอ้อมกอดนี้
.............ขอบคุณที่ให้โอกาสฉันครั้ง
.........................ขอบคุณมากๆค่ะ
........................................ขอบคุณ
[แถมท้ายให้อีกนิด!!!]
“ 55+ นา..นายหน้าแดง ” เธอมองหน้าของหมอนั้นที่แดงเถือกอย่างเห็นได้ชัดภายหลังจากที่ผละออกมาจากอ้อมกอดของกันและกัน
“ หุบปากไปเลยนะยัยบ้า ” หมอนั้นพูดด้วยท่าทีที่อายจัด มองดูเธอที่ขำจนจะลงไปกลิ้งก่อนที่มุมปากจะแสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย
“ จะว่าไปฉันควรลงโทษเธอซะหน่อยที่ดันพูดตัดหน้าบอกรักฉันก่อนดีมั้ยเนี้ย ” คำพูดและท่าทางไม่น่าไว้ใจของหมอนั้นทำให้เธอหยุดขำโดยอัตโนมัติ นัยน์ตาสีน้ำตาลหันไปมองด้วยท่าทางระมัดระวังทันทีที่ร่างสูงของหมอนั้นวิ่งเข้ามาเธอ เธอก็วิ่งโกยอ้าวออกไปอย่างรวดเร็ว
“ แน่จริงนายก็จับฉันให้ทันสิ ”
“ หนอย ! ”
“ จับไม่ได้อ่ะดิ 55+ ”
“ คอยดู....ถ้าฉันจับเธอได้รับรองไม่จบแค่จูบเดียวแน่ๆ ”
“ นะ...นาย…. >////< ”
..................................[End]............................................
><
น่ารั กมากเลย อ๊า~.. อ่า นแล้ วก็ อิน
อิ นแล้วก็ กรี๊ ด.. กรี๊ ดแล้ว มือก็เริ่ มดึ งเสื้อ ดึง ผ้า
อ๊า กกก
>//////<
อิ นแล้วก็ กรี๊ ด.. กรี๊ ดแล้ว มือก็เริ่ มดึ งเสื้อ ดึง ผ้า
อ๊า กกก
>//////<
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|