I will stay with you(and for you) [ดีโน่ X ฮิบาริ]
3 posters
หน้า 1 จาก 1
I will stay with you(and for you) [ดีโน่ X ฮิบาริ]
ถ้าเธอเลือกที่จะกระทำความผิดที่ร้ายแรงที่สุดลงไป
ชั้นจะไม่โทษเธอที่เลือกที่จะกระทำสิ่งนั้น.............แต่ชั้นจะโทษตัวชั้นเองที่ไม่ห้ามเธอ
ถ้าเธอหลงใหลในความแข็งแกร่งและเลือกที่จะต่อสู้
ชั้นจะไม่โทษเธอที่เลือกที่จะต่อสู้.................แต่ชั้นจะโทษคนๆนั้น คนที่เริ่มการต่อสู้นี้ขึ้น
ถ้าเธอได้ทำอะไรที่ผู้คนไม่อาจยกโทษให้เธอได้ลงไป
ชั้นจะไม่โทษเธอที่ทำผิดพลาด..............แต่ชั้นจะโทษคนเหล่านั้นที่ไม่ยกโทษให้เธอ
ถ้าเธอต้องถูกคนทั้งโลกประณามและต่อว่า
ชั้นจะไม่โกรธที่เธอจะยืนหยัดต่อสิ่งนั้นไม่ว่าความจริงจะเป็นเช่นไร...........แต่ชั้นจะโทษพวกเขาที่ต่อว่าเธอ
และชั้นก็พร้อมที่จะถูกประณามไปพร้อมๆกับเธอด้วย............
................แม้สิ่งที่เธอทำมันจะผิดในสายตาของคนอื่น................แต่มันคือความถูกต้องในสายตาของชั้น
...............แม้เธอจะเปรียบเสมือนสีดำของโลกใบนี้..........แต่เธอจะเป็นสีขาวสำหรับชั้น
........................ตราบใดที่บนโลกใบนี้ไม่มีใครเข้าใจเธอ........................................
................................ชั้นนี่แหล่ะ....ที่จะขอเป็นคนเพียงคนเดียวที่เข้าใจเธอ........................
................................................................................................................................
........................ชั้นผิดหรือไง?....................ที่จะเลือกเธอมากกว่าคนทั้งโลก............................
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
นี่ เคียวยะ นายเห็นร้านเค้กเปิดใหม่ที่หน้าสถานีหรือยัง? ร้านนั้นชั้นไปมาแล้วล่ะ อร่อยมากเลยนะ ทั้งเค้ก ทั้งชาเลย ไว้เราไปด้วยกันไหม?ชายหนุ่มผมทองอารมณ์ดีกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงร่าเริง ดวงตาคมมองไปที่เด็กหนุ่มหัวหน้ากรรมการรักษาระเบียบที่ตอนนี้เอาแต่อ่านเอกสารในมือโดยแทบจะทำเหมือนเขาไม่มีตัวตนเลยทีเดียว แต่ตัวเขาเองก็ไม่คิดจะยอมแพ้กับท่าทีเย็นชาของร่างนั้นเลย บทสนทนาใหม่ถูกเริ่มขึ้นต่อแทบจะในทันที
จริงสิๆ ได้ยินว่าที่สวนสนุกของที่นี่มีมาสคอตหน้าตาน่ารักมากๆ ชื่อว่า นุ๊กกี้เมาส์ ล่ะ นายรู้ไหมหรอว่ามันหน้าตายังไง? ไว้ไปดูด้วยกันไหม?
..........เงียบ ยังไร้ซึ่งคำตอบรับกลับจากหัวหน้ากรรมการรักษาระเบียบม.นามิโมริที่ยังคงตั้งท่าจดจ่ออยู่กับเอกสารในมือแผ่นใหม่ที่เพิ่งหยิบขึ้นมา
ดีโน่ถอนหายใจเบาๆกับความเฉยชาที่อีกฝ่ายมีให้ ปากก็เตรียมจะเริ่มบทสนทนาใหม่ แต่เขาก็ต้องชะงักลงเมื่อคนที่ปิดปากเงียบมาตลอดตั้งแต่ที่เขาเข้ามาในห้องนี้พูดขัดขึ้นเสียก่อน
ถ้าจะมาเพื่อพล่ามเรื่องไร้สาระพรรค์นี้ล่ะก็....ไปให้พ้นเลย ผมไม่ว่างที่จะมาคุยด้วยหรอกนะน้ำเสียงนั้นเจือความหงุดหงิดอยู่เล็กน้อย แต่นั่นก็มากพอที่จะทำให้คนฟังรู้ได้ว่าเจ้าตัวกำลังไม่พอใจ
อะไรกันๆ? แค่ฟังชั้นพูด ชั้นว่ามันคงไม่กระทบอะไรกับงานของนายหรอกน่า~...ฮ่าๆๆดีโน่พูดขึ้นพร้อมกับหัวเราะร่า ดวงตาสีน้ำตาลหรี่ลงมองเด็กหนุ่ม รอยยิ้มแสนซื่อฉีกกว้างขึ้น .....จริงไหม? พ่อกรรมการรักษาระเบียบคนเก่ง
นัยน์ตาสีดำสนิทเบนออกจากตัวหนังสือที่เรียงรายอยู่บนหน้ากระดาษและเหลือบมองมาที่ชายหนุ่มที่ยังคงนั่งเอกเขนกอย่างสบายอารมณ์อยู่บนโซฟาโดยไม่ได้สนใจเลยว่าน้ำเสียงและคำพูดที่ดูเหมือนจะพยายามหยอกล้ออีกฝ่ายนั้นทำให้คนฟังรู้สึกขุ่นเคืองไม่น้อย
ฮิบาริวางเอกสารในมือลงไปรวมกับเอกสารอื่นๆที่ตนได้อ่านเสร็จเรียบร้อยแล้ว มืออีกข้างก็หยิบเอกสารชุดใหม่ที่วางอยู่ใกล้ๆขึ้นมาดูต่อ
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายดูจะไม่สนตนแล้ว ชายร่างสูงก็ลุกขึ้นจากโซฟา เขาเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าโต๊ะของหัวหน้ากรรมการรักษาระเบียบ ชั้นอุตส่าห์ชมว่านายเก่ง.....ไม่ดีใจหรือไง?
ฟึ่บ!
ทอนฟาคู่ใจถูกยกขึ้นจ่อคอของคนปากดี แต่ดูท่าคนปากดีที่ว่าก็หาได้รู้สึกรู้สากับการที่มีกระบองแขนมาจ่อเตรียมป่นกระดูกของตนซักเท่าไรนัก
หุบปากไปซะ ไม่งั้นผมฆ่าเธอทิ้งแน่น้ำคำเหี้ยมดังออกจากปากของเด็กหนุ่มผมดำ ดวงตาสื่อความไม่พอใจที่ใกล้จะถึงขีดสุด
ชายหนุ่มผู้ถูกข่มขู่ยังยืนยิ้มแม้ว่ารอยยิ้มนั้นจะดูเจื่อนนิดๆ เขาถอนหายใจเบาๆ สายตามองไปที่ร่างที่เล็กกว่าที่ตอนนี้กำลังหน้านิ่วคิ้วขมวด
เคียวยะ.....เอาแต่ทำอย่างนี้ เดี๋ยวก็ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้หรอก............อย่างนั้นน่ะ ไม่เหงาหรือไงกัน?น้ำเสียงที่อ่อนลง บ่งบอกถึงความห่วงใย แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่หัวหน้ากรรมการรักษาระเบียบแห่งม.นามิโมริ ฮิบาริ เคียวยะคนนี้จะสามารถทำความเข้าใจได้ และนอกจากจะไม่เข้าใจแล้ว ท่าทางอย่างนั้นของอีกฝ่ายกลับทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกเหมือนว่าคู่สนทนาเห็นว่าตนอ่อนแอ นั่นจึงยิ่งเพิ่มความไม่พอใจของเด็กหนุ่มให้เพิ่มขึ้นไปอีก
อ๊ะ! อ้าว?? เคียวยะ เดี๋ยวสิ จะไปไหนน่ะ??ดีโน่ถามขึ้นพร้อมกับรีบสาวเท้าก้าวตามฮิบาริที่เดินกระฟัดกระเฟียดออกจากห้องรับแขกไป
จะไปไหนน่.......
ไม่ต้องตามมา!ฮิบาริขัดขึ้น โดยไม่คิดจะหันกลับมามองคนที่เดินตามมาเลย เด็กหนุ่มเร่งฝีเท้าขึ้นเพื่อสลัดชายร่างสูงให้หลุด แต่เพราะช่วงขาที่ยาวของชายหนุ่มทำให้ชายหนุ่มสามารถตามมาได้ติดๆ
จะตามมาทำไมนะ!?
อดไม่ได้ที่จะนึกหงุดหงิดกับการกระทำของคนที่เดินตามหลังมา ไม่รู้ว่าเพราะอะไร หลายครั้งที่ทุกการกระทำของชายคนนี้จะป่วนอารมณ์ของเขาจนอดไม่ได้ที่จะหงุดหงิดตนเองที่ไปสนใจเรื่องไร้สาระพวกนั้น ...........แต่ตัวเขาเองก็ไม่เคยห้ามใจตนเองไม่ให้สนใจคนๆนี้ได้ซักที..............
พลั่ก!
เสียงเหมือนร่างของใครบางคนล้มลงไปกองอยู่ที่พื้นเรียกชายตาของคนทั้งสองให้หันไป ภาพที่ปรากฏแก่สายตาของพวกเขาคือเด็กนามิโมริคนหนึ่งที่กำลังนอนขดตัวอยู่โดยมีอันธพาล3-4คนยืนล้อมไว้ เด็กหนุ่มคนนั้นมีรอยฟกช้ำอยู่ทั่วตัวบอกให้รู้ว่าเขาโดนรุมทำร้ายโดยคนที่ยืนอยู่รอบๆตัวเขาในตอนนี้
อ๊ะ..ต้องเข้าไปช่วย...ดีโน่พูดขึ้นพร้อมคว้าแส้อาวุธประจำตัวที่ซ่อนอยู่ในโค้ทออกมา ขายาวก้าวเดินหวังเข้าไปช่วยเด็กหนุ่มนิรนามที่กำลังลำบาก แต่เขาดูจะช้าไปเพราะเด็กหนุ่มผมดำที่เขาเดินตามมานั้นไปถึงตัวอันธพาลเหล่านั้นก่อนเสียแล้ว
ผลั้วะ!!!
เสียงของทอนฟาที่ฟาดกระทบไปที่ใบหน้าและตามตัวของอันธพาลกลุ่มนั้นดังขึ้น ก่อนจะตามมาอีกสารพัดเสียงที่ไม่ต่างกันนัก และหลังจากนั้นอันธพาลที่เคยยืนยิ้ม ตอนนี้กลับลงไปกองในสภาพที่น่าอนาถยิ่งกว่าคนที่ตนเองทำร้ายหลายเท่าตัวนัก
อะ....เอ่อ....เคียวยะ??ดีโน่ลองเชิงเรียกชื่ออีกฝ่ายดู เขาไม่แน่ใจนักว่าตอนนี้ตัวเขาควรเข้าไปใกล้เด็กคนนี้ไหม? ยิ่งตอนนี้ไม่มีลูกน้องอยู่ด้วย หากสุ่มสี่สุ่มห้าเข้าไปใกล้ เกรงว่าเขาจะได้กลายเป็นศพต่อไปทั้งๆไม่ต้องการเป็นแน่ แต่เจ้าของชื่อนั้นหาได้ใส่ใจต่อเสียงเรียกของเขาเลยแม้แต่น้อย ปลายหางตาของเด็กหนุ่มเหลือบมองร่างที่ดูจะบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย(เล็กน้อยมาก เมื่อเทียบกับซากที่นอนผึ่งแดดอยู่รอบๆ) ริมฝีปากบางเปิดขึ้นบ่งบอกให้รู้ว่าเจ้าตัวกำลังจะพูดอะไร แต่น่าเสียดายที่อีกฝ่ายที่ยังนั่งอยู่ที่พื้นนั้นไวกว่า
ขอโทษคร้าบบบบบบบปากว่าพร้อมๆกับที่รีบยันตัวขึ้นยืนแล้ววิ่งเต็มเหยียดจนหายไปจากสายตาของเด็กหนุ่มกรรมการรักษาระเบียบในชั่วพริบตาเดียว
ฮิบาริมองตามหลังของเด็กหนุ่มคนที่เขาเพิ่งช่วยเอาไว้ด้วยสายตาว่างเปล่า มองไปแม้จะรู้ว่าคนที่ว่านั้นวิ่งหายไปจากการมองเห็นของเขาแล้ว ปากที่เตรียมจะเอ่ยถามว่า [เป็นอะไรไหม?] ปิดลงอย่างช้าๆ ร่างบางสะบัดหน้าเบาๆ ...........ไม่สบอารมณ์เลย..............
ขาที่หยุดยืนนิ่งเริ่มสาวก้าวต่ออย่างรวดเร็ว ในขณะที่คนที่เดินตามมาก็ยังคงเดินตามต่อโดยไม่พูดอะไร และคนโดนตามเองก็ไม่คิดจะหันไปว่ากล่าวอะไร เด็กหนุ่มค่อยๆผ่อนความเร็วลง ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปในสวนสาธารณะ เนื่องด้วยเวลานี้ยังเป็นเวลาที่ผู้คนต่างก็ยังต้องทำตามหน้าที่ของตน ไม่ว่าจะเป็นเด็กๆที่กำลังเรียนหนังสือกันอยู่ หรือชายหญิงวัยหนุ่มสาวที่ต้องทำงาน นั่นทำให้สวนสาธารณะในยามนี้แทบจะไม่มีคนมาเดินเลย จะมีก็เพียงคนแก่ หรือแม่บ้านไม่กี่คนมาเดินพักผ่อนหย่อนใจ
เจ้าของเรือนผมสีดำสนิทเลือกที่จะนั่งลงที่รั้วอิฐเตี้ยๆที่สร้างขึ้นเพื่อกั้นส่วนที่เป็นพื้นหญ้าออกจากพื้นคอนกรีตที่เป็นทางเดิน เด็กหนุ่มนั่งลงก้มหน้าก้มตาไม่พูดอะไร ไม่แม้แต่จะสนใจชายหนุ่มร่างสูงที่เดินตามเขาไม่เลิกซักที
ดีโน่มองไปที่คนที่นั่งนิ่งไม่วางตา ไม่รู้ว่าเขารู้สึกไปเองหรือเปล่า? แต่ในตอนนี้ เด็กหนุ่มคนตรงหน้าเขานี้ดูหม่นหมองเหลือเกิน มันแลดูผิดไปจากทุกทีจนเขาอดเป็นห่วงไม่ได้ แต่หากเขาพูดอะไรที่แสดงท่าทีเป็นห่วงมากจนเกินไป เขาก็เกรงว่านั่นจะทำให้เด็กหนุ่มผมดำอารมณ์เสียเปล่าๆ ...........อยากจะปลอบ....แต่ก็ไม่อยากให้ต้องขุ่นใจมากไปกว่านี้.................แต่ถึงกระนั้น.....เขาก็ไม่รู้ว่าเขาควรจะพูดออกไปอย่างไร?.....................
ก็บอกแล้วไงว่าทำตัวอย่างนั้น เดี๋ยวก็ไม่มีใครกล้ายุ่งด้วย?คงเสียเวลาเปล่าที่จะมานั่งคิดนู่นคิดนี่ให้วุ่นวาย ในเวลานี้ เขาก็คงได้แต่ต้องทำไปตามนิสัยของตนเองเท่านั้น ....อย่างน้อยมันก็น่าจะดีกว่าปล่อยไปอย่างนี้..........
หุบปากไปซะ....เสียงที่เงียบไปนานดังขึ้นเบาๆ เสียงที่ดูห่างเหินและไร้เยื่อใย แต่เสียงนั้นกลับสั่นเครือนิดๆ
เสียใจหรือ?คำถามที่ดังขึ้น ทำเอาเด็กหนุ่มพูดอะไรไม่ออก ไม่ใช่ไม่พอใจ แต่ตอนนี้ตัวเขากลับรู้สึกเหมือนคำถามนั้นมัน.....แทงใจ............
............................เสียใจ...........................
ถ้านายไม่พูดอะไรออกไป ก็ไม่มีใครเข้าใจหรอกนะ....ฮิบาริยังไม่ตอบอะไรกลับมา คำพูดของอีกฝ่ายยิ่งทำให้เขาจนในคำพูด
.....................ก็แล้วเคยมีใครเข้าใจล่ะ??......................
แต่ชั้นเข้าใจนะราวกับรู้ทันความคิด คำพูดถัดมาจึงแทบจะเป็นคำตอบของคำถามในใจของเด็กหนุ่มได้เลย แต่ตัวเขาจะเชื่อได้จริงๆหรอ? กับคำพูดที่อาจจะแค่บังเอิญหลุดออกมาจากปากของชายหนุ่มในเวลาที่นี้เท่านั้น ดีโน่ยังคงมองไปที่ร่างบางที่ยังคงนั่งเงียบไม่ยอมปริปากพูดอะไรตอบกลับมา ....แค่ชั้นคนเดียวไม่พอหรือ?....
ทั้งคู่ต่างก็นิ่งไปหลังจากที่ประโยคนี้ดังขึ้นมา ฝ่ายหนึ่งรอคำตอบ ในขณะที่อีกฝ่ายก็กำลังชั่งใจในคำถาม ฮิบารินิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ และนั่นก็ทำให้ชายหนุ่มต้องเป็นฝ่ายยืนนิ่งบ้าง ..............ไม่พอ...อย่างนั้นสินะ....
อย่างงั้นหรือ?...น้ำเสียงที่ดังขึ้นต่อฟังดูหงอยไปถนัดตา ชายหนุ่มพยายามฝืนยิ้มรับคำตอบที่ได้รับ แม้จะไม่อยากนัก
...เปล่า.....เสียงของฮิบาริดังแว่วขึ้นมาเบาๆ แต่นั่นก็มากพอที่จะทำให้ดีโน่ต้องมองไปที่เขาด้วยสายตาประหลาดใจ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นความดีใจ ...........เปล่า.......ไม่ใช่ว่าคนเดียวไม่พอ...........แค่เขาคนเดียวก็ได้สินะ??............
รอยยิ้มที่ดูฝืนกลายมาเป็นรอยยิ้มอย่างทุกทีในพริบตา น้ำเสียงร่าเริงแบบทุกทีดังขึ้น งั้นขอชั้นนั่งข้างๆนะ
ฮิบาริพยักหน้ารับเบาๆเป็นคำตอบ ดีโน่เองก็รีบนั่งลงอย่างรวดเร็ว เขามองไปที่เด็กหนุ่มข้างกาย ก่อนจะเลยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ก้อนเมฆเลื่อนลอยไปตามสายลมที่พัดโชยมาเบาๆ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
.............................ถึงแม้จะไม่มีใครเข้าใจเธอ.......................
...................................................................................
.........................แต่ชั้นก็อยากให้เธอรู้....ว่าชั้นเข้าใจ...................
...........................................................................................
........................หากมันยังไม่เพียงพอกับที่เธอต้องการ....................
...................................................................................................
......................ชั้นก็จะเข้าใจเธอให้มากขึ้น........................
...............................................................................
...............มาก.....ให้เท่ากับที่เธอต้องการ.................
...................................................................
...................เธออยากจะร้องขออะไรจากชั้นก็ได้.....................
............................................................................
................ชั้นพร้อม.......ที่จะมอบสิ่งเหล่านั้นให้เธอ............
..........................................................................
...........และสิ่งตอบแทนนั้น............
.............................................................
............ชั้นจะขอเพียงที่ว่างข้างๆกายเธอ..........
......................................................
..................ให้ที่นั่นเป็นที่อยู่ของชั้น...........
...........................................................
..............เพราะชั้นอยากจะอยู่เคียงข้างๆเธอมากกว่าใคร.............
............................................................................
.................................................
.........................
..........
End
ชั้นจะไม่โทษเธอที่เลือกที่จะกระทำสิ่งนั้น.............แต่ชั้นจะโทษตัวชั้นเองที่ไม่ห้ามเธอ
ถ้าเธอหลงใหลในความแข็งแกร่งและเลือกที่จะต่อสู้
ชั้นจะไม่โทษเธอที่เลือกที่จะต่อสู้.................แต่ชั้นจะโทษคนๆนั้น คนที่เริ่มการต่อสู้นี้ขึ้น
ถ้าเธอได้ทำอะไรที่ผู้คนไม่อาจยกโทษให้เธอได้ลงไป
ชั้นจะไม่โทษเธอที่ทำผิดพลาด..............แต่ชั้นจะโทษคนเหล่านั้นที่ไม่ยกโทษให้เธอ
ถ้าเธอต้องถูกคนทั้งโลกประณามและต่อว่า
ชั้นจะไม่โกรธที่เธอจะยืนหยัดต่อสิ่งนั้นไม่ว่าความจริงจะเป็นเช่นไร...........แต่ชั้นจะโทษพวกเขาที่ต่อว่าเธอ
และชั้นก็พร้อมที่จะถูกประณามไปพร้อมๆกับเธอด้วย............
................แม้สิ่งที่เธอทำมันจะผิดในสายตาของคนอื่น................แต่มันคือความถูกต้องในสายตาของชั้น
...............แม้เธอจะเปรียบเสมือนสีดำของโลกใบนี้..........แต่เธอจะเป็นสีขาวสำหรับชั้น
........................ตราบใดที่บนโลกใบนี้ไม่มีใครเข้าใจเธอ........................................
................................ชั้นนี่แหล่ะ....ที่จะขอเป็นคนเพียงคนเดียวที่เข้าใจเธอ........................
................................................................................................................................
........................ชั้นผิดหรือไง?....................ที่จะเลือกเธอมากกว่าคนทั้งโลก............................
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
นี่ เคียวยะ นายเห็นร้านเค้กเปิดใหม่ที่หน้าสถานีหรือยัง? ร้านนั้นชั้นไปมาแล้วล่ะ อร่อยมากเลยนะ ทั้งเค้ก ทั้งชาเลย ไว้เราไปด้วยกันไหม?ชายหนุ่มผมทองอารมณ์ดีกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงร่าเริง ดวงตาคมมองไปที่เด็กหนุ่มหัวหน้ากรรมการรักษาระเบียบที่ตอนนี้เอาแต่อ่านเอกสารในมือโดยแทบจะทำเหมือนเขาไม่มีตัวตนเลยทีเดียว แต่ตัวเขาเองก็ไม่คิดจะยอมแพ้กับท่าทีเย็นชาของร่างนั้นเลย บทสนทนาใหม่ถูกเริ่มขึ้นต่อแทบจะในทันที
จริงสิๆ ได้ยินว่าที่สวนสนุกของที่นี่มีมาสคอตหน้าตาน่ารักมากๆ ชื่อว่า นุ๊กกี้เมาส์ ล่ะ นายรู้ไหมหรอว่ามันหน้าตายังไง? ไว้ไปดูด้วยกันไหม?
..........เงียบ ยังไร้ซึ่งคำตอบรับกลับจากหัวหน้ากรรมการรักษาระเบียบม.นามิโมริที่ยังคงตั้งท่าจดจ่ออยู่กับเอกสารในมือแผ่นใหม่ที่เพิ่งหยิบขึ้นมา
ดีโน่ถอนหายใจเบาๆกับความเฉยชาที่อีกฝ่ายมีให้ ปากก็เตรียมจะเริ่มบทสนทนาใหม่ แต่เขาก็ต้องชะงักลงเมื่อคนที่ปิดปากเงียบมาตลอดตั้งแต่ที่เขาเข้ามาในห้องนี้พูดขัดขึ้นเสียก่อน
ถ้าจะมาเพื่อพล่ามเรื่องไร้สาระพรรค์นี้ล่ะก็....ไปให้พ้นเลย ผมไม่ว่างที่จะมาคุยด้วยหรอกนะน้ำเสียงนั้นเจือความหงุดหงิดอยู่เล็กน้อย แต่นั่นก็มากพอที่จะทำให้คนฟังรู้ได้ว่าเจ้าตัวกำลังไม่พอใจ
อะไรกันๆ? แค่ฟังชั้นพูด ชั้นว่ามันคงไม่กระทบอะไรกับงานของนายหรอกน่า~...ฮ่าๆๆดีโน่พูดขึ้นพร้อมกับหัวเราะร่า ดวงตาสีน้ำตาลหรี่ลงมองเด็กหนุ่ม รอยยิ้มแสนซื่อฉีกกว้างขึ้น .....จริงไหม? พ่อกรรมการรักษาระเบียบคนเก่ง
นัยน์ตาสีดำสนิทเบนออกจากตัวหนังสือที่เรียงรายอยู่บนหน้ากระดาษและเหลือบมองมาที่ชายหนุ่มที่ยังคงนั่งเอกเขนกอย่างสบายอารมณ์อยู่บนโซฟาโดยไม่ได้สนใจเลยว่าน้ำเสียงและคำพูดที่ดูเหมือนจะพยายามหยอกล้ออีกฝ่ายนั้นทำให้คนฟังรู้สึกขุ่นเคืองไม่น้อย
ฮิบาริวางเอกสารในมือลงไปรวมกับเอกสารอื่นๆที่ตนได้อ่านเสร็จเรียบร้อยแล้ว มืออีกข้างก็หยิบเอกสารชุดใหม่ที่วางอยู่ใกล้ๆขึ้นมาดูต่อ
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายดูจะไม่สนตนแล้ว ชายร่างสูงก็ลุกขึ้นจากโซฟา เขาเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าโต๊ะของหัวหน้ากรรมการรักษาระเบียบ ชั้นอุตส่าห์ชมว่านายเก่ง.....ไม่ดีใจหรือไง?
ฟึ่บ!
ทอนฟาคู่ใจถูกยกขึ้นจ่อคอของคนปากดี แต่ดูท่าคนปากดีที่ว่าก็หาได้รู้สึกรู้สากับการที่มีกระบองแขนมาจ่อเตรียมป่นกระดูกของตนซักเท่าไรนัก
หุบปากไปซะ ไม่งั้นผมฆ่าเธอทิ้งแน่น้ำคำเหี้ยมดังออกจากปากของเด็กหนุ่มผมดำ ดวงตาสื่อความไม่พอใจที่ใกล้จะถึงขีดสุด
ชายหนุ่มผู้ถูกข่มขู่ยังยืนยิ้มแม้ว่ารอยยิ้มนั้นจะดูเจื่อนนิดๆ เขาถอนหายใจเบาๆ สายตามองไปที่ร่างที่เล็กกว่าที่ตอนนี้กำลังหน้านิ่วคิ้วขมวด
เคียวยะ.....เอาแต่ทำอย่างนี้ เดี๋ยวก็ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้หรอก............อย่างนั้นน่ะ ไม่เหงาหรือไงกัน?น้ำเสียงที่อ่อนลง บ่งบอกถึงความห่วงใย แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่หัวหน้ากรรมการรักษาระเบียบแห่งม.นามิโมริ ฮิบาริ เคียวยะคนนี้จะสามารถทำความเข้าใจได้ และนอกจากจะไม่เข้าใจแล้ว ท่าทางอย่างนั้นของอีกฝ่ายกลับทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกเหมือนว่าคู่สนทนาเห็นว่าตนอ่อนแอ นั่นจึงยิ่งเพิ่มความไม่พอใจของเด็กหนุ่มให้เพิ่มขึ้นไปอีก
อ๊ะ! อ้าว?? เคียวยะ เดี๋ยวสิ จะไปไหนน่ะ??ดีโน่ถามขึ้นพร้อมกับรีบสาวเท้าก้าวตามฮิบาริที่เดินกระฟัดกระเฟียดออกจากห้องรับแขกไป
จะไปไหนน่.......
ไม่ต้องตามมา!ฮิบาริขัดขึ้น โดยไม่คิดจะหันกลับมามองคนที่เดินตามมาเลย เด็กหนุ่มเร่งฝีเท้าขึ้นเพื่อสลัดชายร่างสูงให้หลุด แต่เพราะช่วงขาที่ยาวของชายหนุ่มทำให้ชายหนุ่มสามารถตามมาได้ติดๆ
จะตามมาทำไมนะ!?
อดไม่ได้ที่จะนึกหงุดหงิดกับการกระทำของคนที่เดินตามหลังมา ไม่รู้ว่าเพราะอะไร หลายครั้งที่ทุกการกระทำของชายคนนี้จะป่วนอารมณ์ของเขาจนอดไม่ได้ที่จะหงุดหงิดตนเองที่ไปสนใจเรื่องไร้สาระพวกนั้น ...........แต่ตัวเขาเองก็ไม่เคยห้ามใจตนเองไม่ให้สนใจคนๆนี้ได้ซักที..............
พลั่ก!
เสียงเหมือนร่างของใครบางคนล้มลงไปกองอยู่ที่พื้นเรียกชายตาของคนทั้งสองให้หันไป ภาพที่ปรากฏแก่สายตาของพวกเขาคือเด็กนามิโมริคนหนึ่งที่กำลังนอนขดตัวอยู่โดยมีอันธพาล3-4คนยืนล้อมไว้ เด็กหนุ่มคนนั้นมีรอยฟกช้ำอยู่ทั่วตัวบอกให้รู้ว่าเขาโดนรุมทำร้ายโดยคนที่ยืนอยู่รอบๆตัวเขาในตอนนี้
อ๊ะ..ต้องเข้าไปช่วย...ดีโน่พูดขึ้นพร้อมคว้าแส้อาวุธประจำตัวที่ซ่อนอยู่ในโค้ทออกมา ขายาวก้าวเดินหวังเข้าไปช่วยเด็กหนุ่มนิรนามที่กำลังลำบาก แต่เขาดูจะช้าไปเพราะเด็กหนุ่มผมดำที่เขาเดินตามมานั้นไปถึงตัวอันธพาลเหล่านั้นก่อนเสียแล้ว
ผลั้วะ!!!
เสียงของทอนฟาที่ฟาดกระทบไปที่ใบหน้าและตามตัวของอันธพาลกลุ่มนั้นดังขึ้น ก่อนจะตามมาอีกสารพัดเสียงที่ไม่ต่างกันนัก และหลังจากนั้นอันธพาลที่เคยยืนยิ้ม ตอนนี้กลับลงไปกองในสภาพที่น่าอนาถยิ่งกว่าคนที่ตนเองทำร้ายหลายเท่าตัวนัก
อะ....เอ่อ....เคียวยะ??ดีโน่ลองเชิงเรียกชื่ออีกฝ่ายดู เขาไม่แน่ใจนักว่าตอนนี้ตัวเขาควรเข้าไปใกล้เด็กคนนี้ไหม? ยิ่งตอนนี้ไม่มีลูกน้องอยู่ด้วย หากสุ่มสี่สุ่มห้าเข้าไปใกล้ เกรงว่าเขาจะได้กลายเป็นศพต่อไปทั้งๆไม่ต้องการเป็นแน่ แต่เจ้าของชื่อนั้นหาได้ใส่ใจต่อเสียงเรียกของเขาเลยแม้แต่น้อย ปลายหางตาของเด็กหนุ่มเหลือบมองร่างที่ดูจะบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย(เล็กน้อยมาก เมื่อเทียบกับซากที่นอนผึ่งแดดอยู่รอบๆ) ริมฝีปากบางเปิดขึ้นบ่งบอกให้รู้ว่าเจ้าตัวกำลังจะพูดอะไร แต่น่าเสียดายที่อีกฝ่ายที่ยังนั่งอยู่ที่พื้นนั้นไวกว่า
ขอโทษคร้าบบบบบบบปากว่าพร้อมๆกับที่รีบยันตัวขึ้นยืนแล้ววิ่งเต็มเหยียดจนหายไปจากสายตาของเด็กหนุ่มกรรมการรักษาระเบียบในชั่วพริบตาเดียว
ฮิบาริมองตามหลังของเด็กหนุ่มคนที่เขาเพิ่งช่วยเอาไว้ด้วยสายตาว่างเปล่า มองไปแม้จะรู้ว่าคนที่ว่านั้นวิ่งหายไปจากการมองเห็นของเขาแล้ว ปากที่เตรียมจะเอ่ยถามว่า [เป็นอะไรไหม?] ปิดลงอย่างช้าๆ ร่างบางสะบัดหน้าเบาๆ ...........ไม่สบอารมณ์เลย..............
ขาที่หยุดยืนนิ่งเริ่มสาวก้าวต่ออย่างรวดเร็ว ในขณะที่คนที่เดินตามมาก็ยังคงเดินตามต่อโดยไม่พูดอะไร และคนโดนตามเองก็ไม่คิดจะหันไปว่ากล่าวอะไร เด็กหนุ่มค่อยๆผ่อนความเร็วลง ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปในสวนสาธารณะ เนื่องด้วยเวลานี้ยังเป็นเวลาที่ผู้คนต่างก็ยังต้องทำตามหน้าที่ของตน ไม่ว่าจะเป็นเด็กๆที่กำลังเรียนหนังสือกันอยู่ หรือชายหญิงวัยหนุ่มสาวที่ต้องทำงาน นั่นทำให้สวนสาธารณะในยามนี้แทบจะไม่มีคนมาเดินเลย จะมีก็เพียงคนแก่ หรือแม่บ้านไม่กี่คนมาเดินพักผ่อนหย่อนใจ
เจ้าของเรือนผมสีดำสนิทเลือกที่จะนั่งลงที่รั้วอิฐเตี้ยๆที่สร้างขึ้นเพื่อกั้นส่วนที่เป็นพื้นหญ้าออกจากพื้นคอนกรีตที่เป็นทางเดิน เด็กหนุ่มนั่งลงก้มหน้าก้มตาไม่พูดอะไร ไม่แม้แต่จะสนใจชายหนุ่มร่างสูงที่เดินตามเขาไม่เลิกซักที
ดีโน่มองไปที่คนที่นั่งนิ่งไม่วางตา ไม่รู้ว่าเขารู้สึกไปเองหรือเปล่า? แต่ในตอนนี้ เด็กหนุ่มคนตรงหน้าเขานี้ดูหม่นหมองเหลือเกิน มันแลดูผิดไปจากทุกทีจนเขาอดเป็นห่วงไม่ได้ แต่หากเขาพูดอะไรที่แสดงท่าทีเป็นห่วงมากจนเกินไป เขาก็เกรงว่านั่นจะทำให้เด็กหนุ่มผมดำอารมณ์เสียเปล่าๆ ...........อยากจะปลอบ....แต่ก็ไม่อยากให้ต้องขุ่นใจมากไปกว่านี้.................แต่ถึงกระนั้น.....เขาก็ไม่รู้ว่าเขาควรจะพูดออกไปอย่างไร?.....................
ก็บอกแล้วไงว่าทำตัวอย่างนั้น เดี๋ยวก็ไม่มีใครกล้ายุ่งด้วย?คงเสียเวลาเปล่าที่จะมานั่งคิดนู่นคิดนี่ให้วุ่นวาย ในเวลานี้ เขาก็คงได้แต่ต้องทำไปตามนิสัยของตนเองเท่านั้น ....อย่างน้อยมันก็น่าจะดีกว่าปล่อยไปอย่างนี้..........
หุบปากไปซะ....เสียงที่เงียบไปนานดังขึ้นเบาๆ เสียงที่ดูห่างเหินและไร้เยื่อใย แต่เสียงนั้นกลับสั่นเครือนิดๆ
เสียใจหรือ?คำถามที่ดังขึ้น ทำเอาเด็กหนุ่มพูดอะไรไม่ออก ไม่ใช่ไม่พอใจ แต่ตอนนี้ตัวเขากลับรู้สึกเหมือนคำถามนั้นมัน.....แทงใจ............
............................เสียใจ...........................
ถ้านายไม่พูดอะไรออกไป ก็ไม่มีใครเข้าใจหรอกนะ....ฮิบาริยังไม่ตอบอะไรกลับมา คำพูดของอีกฝ่ายยิ่งทำให้เขาจนในคำพูด
.....................ก็แล้วเคยมีใครเข้าใจล่ะ??......................
แต่ชั้นเข้าใจนะราวกับรู้ทันความคิด คำพูดถัดมาจึงแทบจะเป็นคำตอบของคำถามในใจของเด็กหนุ่มได้เลย แต่ตัวเขาจะเชื่อได้จริงๆหรอ? กับคำพูดที่อาจจะแค่บังเอิญหลุดออกมาจากปากของชายหนุ่มในเวลาที่นี้เท่านั้น ดีโน่ยังคงมองไปที่ร่างบางที่ยังคงนั่งเงียบไม่ยอมปริปากพูดอะไรตอบกลับมา ....แค่ชั้นคนเดียวไม่พอหรือ?....
ทั้งคู่ต่างก็นิ่งไปหลังจากที่ประโยคนี้ดังขึ้นมา ฝ่ายหนึ่งรอคำตอบ ในขณะที่อีกฝ่ายก็กำลังชั่งใจในคำถาม ฮิบารินิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ และนั่นก็ทำให้ชายหนุ่มต้องเป็นฝ่ายยืนนิ่งบ้าง ..............ไม่พอ...อย่างนั้นสินะ....
อย่างงั้นหรือ?...น้ำเสียงที่ดังขึ้นต่อฟังดูหงอยไปถนัดตา ชายหนุ่มพยายามฝืนยิ้มรับคำตอบที่ได้รับ แม้จะไม่อยากนัก
...เปล่า.....เสียงของฮิบาริดังแว่วขึ้นมาเบาๆ แต่นั่นก็มากพอที่จะทำให้ดีโน่ต้องมองไปที่เขาด้วยสายตาประหลาดใจ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นความดีใจ ...........เปล่า.......ไม่ใช่ว่าคนเดียวไม่พอ...........แค่เขาคนเดียวก็ได้สินะ??............
รอยยิ้มที่ดูฝืนกลายมาเป็นรอยยิ้มอย่างทุกทีในพริบตา น้ำเสียงร่าเริงแบบทุกทีดังขึ้น งั้นขอชั้นนั่งข้างๆนะ
ฮิบาริพยักหน้ารับเบาๆเป็นคำตอบ ดีโน่เองก็รีบนั่งลงอย่างรวดเร็ว เขามองไปที่เด็กหนุ่มข้างกาย ก่อนจะเลยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ก้อนเมฆเลื่อนลอยไปตามสายลมที่พัดโชยมาเบาๆ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
.............................ถึงแม้จะไม่มีใครเข้าใจเธอ.......................
...................................................................................
.........................แต่ชั้นก็อยากให้เธอรู้....ว่าชั้นเข้าใจ...................
...........................................................................................
........................หากมันยังไม่เพียงพอกับที่เธอต้องการ....................
...................................................................................................
......................ชั้นก็จะเข้าใจเธอให้มากขึ้น........................
...............................................................................
...............มาก.....ให้เท่ากับที่เธอต้องการ.................
...................................................................
...................เธออยากจะร้องขออะไรจากชั้นก็ได้.....................
............................................................................
................ชั้นพร้อม.......ที่จะมอบสิ่งเหล่านั้นให้เธอ............
..........................................................................
...........และสิ่งตอบแทนนั้น............
.............................................................
............ชั้นจะขอเพียงที่ว่างข้างๆกายเธอ..........
......................................................
..................ให้ที่นั่นเป็นที่อยู่ของชั้น...........
...........................................................
..............เพราะชั้นอยากจะอยู่เคียงข้างๆเธอมากกว่าใคร.............
............................................................................
.................................................
.........................
..........
End
>//<
กรี๊ ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
บทสน ทนาขอ งพวก นาย..
หลอ มละลาย ใจชั้นเหลือ เกิ ลลลลลล
อิน จะตาย แย้ว ~
* ปากที่จะพูดว่า''เป็นอะไรไหม''ค่อยๆปิดลง.. อ๊าก ฮิบาริ.. อย่าเก็ บตัว นักเด๊ >0<
โอ๊ยยย~ คลั่ง จะแย่แล้ว คุ นพี่ขา..
เขี ยนแบบ นี้ออกมา เย้อๆ ทีพลี สสส ~
>//<
บทสน ทนาขอ งพวก นาย..
หลอ มละลาย ใจชั้นเหลือ เกิ ลลลลลล
อิน จะตาย แย้ว ~
* ปากที่จะพูดว่า''เป็นอะไรไหม''ค่อยๆปิดลง.. อ๊าก ฮิบาริ.. อย่าเก็ บตัว นักเด๊ >0<
โอ๊ยยย~ คลั่ง จะแย่แล้ว คุ นพี่ขา..
เขี ยนแบบ นี้ออกมา เย้อๆ ทีพลี สสส ~
>//<
Re: I will stay with you(and for you) [ดีโน่ X ฮิบาริ]
ที่ จริง .. แค่ ชื่อเรื่อ งกั บชื่อ ตัวละคร..
ก็พา จิ้น ของเดี๊ ยนกลาย เป็นสี ชมพูไป เรี้ ยว.. โฮะๆ
ก็พา จิ้น ของเดี๊ ยนกลาย เป็นสี ชมพูไป เรี้ ยว.. โฮะๆ
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|